ภูสะไน ผู้กำเนิด กู๊ดจี
ภูสะไน ผู้กำเนิด กู๊ดจี
ภูสะไน มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองสะไน ตำบลนาม่อง อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร ซึ่งถือเป็นดินแดนแห่งที่ราบหุบเขาภูพาน มีวิถีชีวิตแบบคนพื้นที่มาตั้งแต่เกิด จึงซึมซับเอาวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม ได้เห็นคุณย่าคุณยายแต่งกายด้วยผ้าย้อมคราม ก่อให้เกิดภาพจำมือดำ ๆ ของคุณยาย นั่งย้อมผ้าเพื่อใช้เอง ความสวยงามของภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่าเหล่านี้ ทำให้ภูสะไนอยากรักษาไว้ก่อนจะเลือนหายไป จึงได้ตั้งใจสืบทอดกระบวนการต่าง ๆ จนต่อยอดสู่แบรนด์ลูก "กู๊ดจี (Gudgee)" ในปัจจุบัน
กู๊ดจี (Gudgee)
ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ฤดูกาล GUDGEE จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบพัฒนาด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รักษ์โลก รับผิดชอบต่อสังคม มอบความสุขต่อทุกคนทั่วโลกเสมอ. ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจาก ท้องทุ่งนา และเส้นใยการทอแบบลายขัด โดยออกแบบสัญลักษณ์ 4 แปลงแทน 4 ฤดูกาล ตามแบบสากล คือฤดูหนาว(สีเทา) ฤดูใบไม้ผลิ(สีเขียว) ฤดูร้อน(สีเหลือง) ฤดูใบไม้ร่วง (สีส้ม) ร่วมกับชื่อ GUDGEE / Minimal nature style
"สรรสร้างผลิตภัณฑ์ สานฝันรายได้ชุมชน"
"กู๊ดจี" ก่อกำเนิดในปี 2563 แรงบันดาลใจในการสร้างสรรผลิตภัณฑ์จากความหลากหลายของทรัพยากรในพื้นที่กับภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น โดยมีภูมิสะไนเป็นรากฐานของการพัฒนา จากสีครามธรรมชาติบนเส้นใยฝ้าย ผสมผสานสีธรรมชาติจากวัตถุดิบต่าง ๆ ที่จัดหาที่จัดหาได้ตามฤดูกาล ใช้กระบวนการตามภูมิปัญญาแต่งแต้มสีสันบนเส้น ทอเป็นผืนผ้า นำมาสู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และพัฒนาปรับเปลี่ยนตามกระแสความต้องการของลูกค้า กุ๊ดจี่จึงไม่หยุดที่จะขุดค้นหาสิ่งดี ๆ สำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยการเชื่อมโยงสานฝันแห่งสุขและเสริมสร้างรายได้ของคนในชุมชน
ลายผ้า กู๊ดจี กับสีสันแห่งฤดูกาล
ผ้าชิ้นแรก ภายใต้ กู๊ดจี ผืนผ้าแห่งการเริ่มต้นกับสีสันของฤดูกาล สร้างลวดลายจากอัตลักษณ์ตราสินค้า มัดทอโดยคุณยายที่สืบทอดภูมิปัญญาด้วยความภาคภูมิใจ เรียงร้อยเป็นผืนผ้าด้วยแรงกายแรงใจอย่างมีความสุข เพื่อให้ลูกหลานได้ชื่นชม
Heritage Fusion ผ้าทอ ผ้าผืนซึ่งทำจากเส้นใยธรรมชาติ หรือผ้า ผืนซึ่งทำจากเส้นใยธรรมชาติผสมส้นใยสังคราะห์ นำมาทอเป็นผืนมีลวดลายที่สวยงามสะท้อนให้เห็น ถึงภูมิปัญญา อัตลักษณ์ของชาติพันธุ์และท้องถิ่นทีโดดเด่น มีประวัติความเป็นมา มีการพัฒนา สร้างสรรค์และปรับประยุกต์กรถักทอและลวดลายบนผืนผ้า มีการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายวัตถุดิบที่มีจำกัด มีคุณค่าและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและพึงพอใจของคนส่วนใหญ่ มีการบ่มเพาะ ต่อยอด ถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่คนอื่นและคนรุ่นต่อไป ความสมารถในการผลิตเชิงปริมาณพร้อมแสดง สาธิตและจำหน่ายในโอกาสต่างๆสามารถสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชน ส่งผลให้ชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน